ทำความเข้าใจตลาด Forex: เหตุใดจึงสามารถเทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับผู้เริ่มต้นในวงการเทรด สิ่งหนึ่งที่มักเกิดคำถามบ่อยครั้งคือ “ตลาด Forex เปิด-ปิดเมื่อไหร่?” คำตอบที่น่าสนใจคือ ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ หรือที่รู้จักกันในชื่อ Forex ไม่มีการหยุดพักอย่างแท้จริง มันดำเนินการต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ โดยเริ่มตั้งแต่เช้าวันจันทร์จนถึงคืนวันศุกร์ตามเวลาในประเทศไทย
ข้อได้เปรียบนี้เกิดขึ้นจากลักษณะเฉพาะของตลาด Forex ที่เป็นตลาดแบบกระจายศูนย์ (Decentralized) ไม่ได้ถูกรวมอยู่ในสถานที่เดียวเหมือนตลาดหุ้นทั่วไป แต่เกิดจากการซื้อขายที่เชื่อมโยงกันผ่านเครือข่ายขนาดใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยธนาคารชั้นนำ สถาบันการเงิน และผู้เทรดทั่วโลก เมื่อศูนย์การเงินแห่งหนึ่งปิดทำการ เช่น ที่อเมริกา อีกศูนย์หนึ่งในภูมิภาคเอเชียหรือยุโรปก็เริ่มเปิดทำการตามเขตเวลาที่ต่างกัน ทำให้การซื้อขายสามารถดำเนินต่อเนื่องได้ไม่หยุดชะงัก นี่คือเหตุผลสำคัญที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกให้เข้ามาใช้ประโยชน์จากความยืดหยุ่นของเวลาในตลาดนี้

4 ช่วงเวลาหลักของตลาด Forex ทั่วโลก
แม้ตลาด Forex จะเปิดตลอดวัน แต่กิจกรรมการซื้อขายจะไม่สม่ำเสมอตลอด 24 ชั่วโมง โดยช่วงเวลาที่มีการเคลื่อนไหวสูงมักเกิดขึ้นในช่วงที่ศูนย์การเงินหลักของโลกเปิดทำการ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 4 ช่วงหลัก การเข้าใจลักษณะเฉพาะของแต่ละช่วงจะช่วยให้คุณวางแผนการเทรดได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ช่วงตลาดซิดนีย์
ตลาดซิดนีย์ถือเป็นจุดเริ่มต้นของวงจรการซื้อขายในแต่ละสัปดาห์ เปิดทำการเป็นแห่งแรกตามเวลาในประเทศไทย โดยทั่วไปช่วงนี้มักมีความเคลื่อนไหวที่ค่อนข้างเงียบ เนื่องจากตลาดยุโรปและอเมริกายังไม่เปิด ทำให้สภาพคล่องต่ำกว่าช่วงอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ติดตามคู่เงินที่เกี่ยวข้องกับภูมิภาคแปซิฟิกใต้ เช่น ดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) และดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) ช่วงซิดนีย์จึงยังคงมีความสำคัญ โดยเฉพาะคู่เงินอย่าง AUD/USD, NZD/USD หรือ AUD/JPY ที่มักเริ่มมีทิศทางในช่วงนี้จากข้อมูลเศรษฐกิจท้องถิ่นหรือการเคลื่อนไหวของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ช่วงตลาดโตเกียว
ตามมาติด ๆ หลังจากซิดนีย์เปิดไม่นาน ตลาดโตเกียว ศูนย์การเงินที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ก็เริ่มเข้าสู่ช่วงเวลาซื้อขาย ด้วยบทบาทของญี่ปุ่นในฐานะผู้ส่งออกอันดับต้น ๆ ของโลก สกุลเงินเยน (JPY) มักมีการตอบสนองต่อความเสี่ยง (Risk Sentiment) อย่างรวดเร็ว ทำให้คู่เงินที่มี JPY เป็นส่วนประกอบ เช่น USD/JPY, EUR/JPY และ GBP/JPY มีความผันผวนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงนี้ นักเทรดมักจับตาดูการประกาศนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) หรือข้อมูลเศรษฐกิจที่เกี่ยวกับการส่งออก ซึ่งอาจเป็นตัวกระตุ้นตลาดในช่วงเช้าของเอเชีย
ช่วงตลาดลอนดอน
ถ้าพูดถึงศูนย์กลางของตลาด Forex หลายคนคงนึกถึงลอนดอน ซึ่งเป็นหนึ่งในฮับการเงินที่สำคัญที่สุดของโลก ปริมาณการซื้อขายในช่วงลอนดอนเปิดคิดเป็นมากกว่า 40% ของปริมาณทั้งหมดในแต่ละวัน เมื่อตลาดนี้เปิด ทั้งสภาพคล่องและระดับความผันผวนจะพุ่งสูงขึ้นอย่างทันที คู่เงินหลัก ๆ ไม่ว่าจะเป็น EUR/USD, GBP/USD หรือ USD/CHF มักเริ่มมีการเคลื่อนไหวที่ชัดเจนและต่อเนื่อง นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่นักเทรดรายวัน (Day Trader) และผู้ที่ใช้กลยุทธ์ตามแนวโน้ม (Trend Follower) ให้ความสำคัญสูงสุด
ช่วงตลาดนิวยอร์ก
ช่วงนิวยอร์กถือเป็นช่วงสุดท้ายของวันการซื้อขาย และเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด เนื่องจากเป็นจุดศูนย์กลางของระบบการเงินโลก ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ซึ่งเป็นสกุลเงินสำรองหลัก มักได้รับแรงกดดันจากการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ เช่น อัตราการว่างงาน, ตัวเลข GDP, ดัชนี CPI หรือการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ซึ่งสามารถเปลี่ยนทิศทางของตลาดได้ภายในไม่กี่วินาที ความผันผวนในช่วงนี้จึงสูงมาก โดยเฉพาะในคู่เงินที่มี USD เป็นคู่หลัก ไม่ว่าจะเป็น EUR/USD, USD/JPY หรือ GBP/USD
ตารางเวลาเปิด-ปิดตลาด Forex ตามเวลาประเทศไทย (GMT+7)
การวางแผนการเทรดอย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องรู้เวลาเปิด-ปิดของแต่ละตลาดอย่างแม่นยำ โดยเฉพาะเวลาในประเทศไทย ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงฤดูกาล เนื่องจากประเทศในยุโรปและอเมริกาใช้ระบบการปรับเวลาออมแสง (Daylight Saving Time) ปีละสองครั้ง ส่งผลให้เวลาเปิด-ปิดของตลาดลอนดอนและนิวยอร์กเลื่อนไปหนึ่งชั่วโมงในช่วงฤดูร้อน ดังนั้นเทรดเดอร์ควรอัปเดตข้อมูลเป็นประจำเพื่อไม่ให้พลาดโอกาสสำคัญ
ช่วงฤดูร้อน (เมษายน – ตุลาคม)
| ตลาด (Session) | เวลาเปิด (เวลาไทย) | เวลาปิด (เวลาไทย) |
|---|---|---|
| ซิดนีย์ (Sydney) | 05:00 น. | 14:00 น. |
| โตเกียว (Tokyo) | 06:00 น. | 15:00 น. |
| ลอนดอน (London) | 14:00 น. | 23:00 น. |
| นิวยอร์ก (New York) | 19:00 น. | 04:00 น. (วันถัดไป) |
ช่วงฤดูหนาว (พฤศจิกายน – มีนาคม)
| ตลาด (Session) | เวลาเปิด (เวลาไทย) | เวลาปิด (เวลาไทย) |
|---|---|---|
| ซิดนีย์ (Sydney) | 04:00 น. | 13:00 น. |
| โตเกียว (Tokyo) | 06:00 น. | 15:00 น. |
| ลอนดอน (London) | 15:00 น. | 00:00 น. (เที่ยงคืน) |
| นิวยอร์ก (New York) | 20:00 น. | 05:00 น. (วันถัดไป) |

ช่วงเวลาทอง: เมื่อตลาด Forex ทับซ้อนกัน
ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการเทรดไม่ใช่แค่ช่วงใดช่วงหนึ่งที่ตลาดเปิดเพียงแห่งเดียว แต่คือช่วงที่ตลาดหลักอย่างน้อย 2 แห่งเปิดทำการพร้อมกัน หรือที่เรียกว่า “Overlapping Sessions” ช่วงเหล่านี้มีลักษณะเด่นคือ ปริมาณการซื้อขายสูง สภาพคล่องดี และความผันผวนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้สเปรด (ค่าต่างระหว่างราคาเสนอซื้อและเสนอขาย) แคบลง และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรให้กับเทรดเดอร์
ช่วงทับซ้อน โตเกียว – ลอนดอน
ช่วงนี้กินเวลาเพียงประมาณหนึ่งชั่วโมง โดยในฤดูร้อนจะอยู่ที่ 14:00 – 15:00 น. ส่วนในฤดูหนาวจะไม่มีการทับซ้อนกันอย่างชัดเจน เนื่องจากเวลาของตลาดลอนดอนเลื่อนไปเปิดทีหลัง อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลานี้ยังคงเป็นจุดเปลี่ยนที่น่าจับตา เพราะเป็นช่วงส่งต่อจากตลาดเอเชียไปสู่ยุโรป โดยเฉพาะในคู่เงินที่มีเยนเป็นส่วนประกอบ เช่น EUR/JPY หรือ GBP/JPY ซึ่งอาจเริ่มมีแรงซื้อ-ขายจากผู้เล่นในยุโรปที่เข้ามาวางออเดอร์ก่อนตลาดเปิดเต็มรูปแบบ
ช่วงทับซ้อน ลอนดอน – นิวยอร์ก
นี่คือช่วงเวลาทองคำของการเทรด Forex ซึ่งเป็นช่วงที่นักเทรดมืออาชีพทั่วโลกต่างรอคอย โดยตามเวลาในประเทศไทย จะอยู่ในช่วง 19:00 – 23:00 น. (ฤดูร้อน) หรือ 20:00 – 00:00 น. (ฤดูหนาว) ช่วงนี้เกิดจากการเปิดพร้อมกันของสองศูนย์การเงินที่ใหญ่ที่สุดของโลก ทำให้ผู้เล่นรายใหญ่ ทั้งธนาคาร องค์กรการเงิน และกองทุนต่างเข้าร่วมตลาดอย่างเต็มตัว ส่งผลให้เกิดสภาพคล่องสูงสุดของวัน และมีความผันผวนที่เอื้อต่อการเข้าเทรดในทิศทางของแนวโน้ม นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ มักประกาศในช่วงนี้ ซึ่งยิ่งเพิ่มโอกาสในการทำกำไรให้กับผู้ที่เตรียมตัวมาดี

กลยุทธ์: เลือกคู่เงินให้เหมาะกับช่วงเวลาเทรด
การเลือกคู่เงินที่เหมาะสมกับช่วงเวลาที่เทรด ถือเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างมาก เพราะคู่เงินแต่ละคู่จะมีความเคลื่อนไหวที่แตกต่างกันไปตามศูนย์การเงินที่เปิดทำการ
- ช่วงตลาดเอเชีย (ซิดนีย์และโตเกียว): เหมาะกับการเทรดคู่เงินที่เกี่ยวข้องกับภูมิภาค เช่น AUD/USD, NZD/USD และ USD/JPY ซึ่งได้รับอิทธิพลจากข้อมูลเศรษฐกิจในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และญี่ปุ่นโดยตรง นักเทรดที่ใช้กลยุทธ์ตามข่าวหรือรอแรงส่งจากข้อมูลท้องถิ่นจะได้เปรียบในช่วงนี้
- ช่วงตลาดลอนดอน: เป็นช่วงที่คู่เงินของยุโรปมีความเคลื่อนไหวสูงสุด โดยเฉพาะ EUR/USD, GBP/USD และ EUR/GBP ซึ่งเป็นคู่เงินที่มีสภาพคล่องสูงที่สุดในโลก นักเทรดที่ชอบความผันผวนและต้องการจับการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มควรเน้นในช่วงนี้
- ช่วงตลาดนิวยอร์ก (โดยเฉพาะช่วงทับซ้อนกับลอนดอน): นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับทั้งคู่เงินหลัก (Majors) และคู่เงินรอง (Minors) ที่มี USD เป็นส่วนประกอบ เนื่องจากมีผู้เล่นเข้าร่วมมากที่สุด และมีการประกาศข่าวสำคัญที่ส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์โดยตรง ผู้ที่ใช้กลยุทธ์แบบ Scalping หรือ Day Trading มักประสบความสำเร็จในช่วงนี้ โดยเฉพาะกับ EUR/USD และ GBP/USD ซึ่งเป็นคู่ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด
เครื่องมือช่วยติดตามเวลาและข่าวสารสำคัญสำหรับเทรดเดอร์
ในยุคดิจิทัล การใช้เครื่องมือช่วยติดตามเวลาตลาดและข่าวสารมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในการเทรด โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงความสับสนจากความแตกต่างของเวลาและการประกาศข่าวที่ไม่คาดคิด
นาฬิกาตลาด Forex (Forex Market Clock)
มีเว็บไซต์และแอปพลิเคชันหลายแห่งที่ให้บริการนาฬิกาตลาด Forex แบบเรียลไทม์ แสดงให้เห็นว่าขณะนี้ตลาดใดเปิดอยู่ ตลาดใดกำลังจะเปิดหรือปิด ช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของตลาดโลกโดยไม่ต้องคำนวณเวลาเอง เช่น เว็บไซต์อย่าง Investing.com หรือ TradingView ที่มีฟังก์ชันแสดงช่วงเวลาตลาดบนกราฟได้โดยตรง ทำให้สามารถวางแผนเข้า-ออกออเดอร์ได้อย่างแม่นยำ
ปฏิทินเศรษฐกิจ (Economic Calendar)
ปฏิทินเศรษฐกิจคือเครื่องมือสำคัญที่สุดสำหรับนักเทรดทุกคน ช่วยรวบรวมกำหนดการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญจากประเทศต่าง ๆ เช่น อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง, ตัวเลขการจ้างงาน, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI), และอัตราเงินเฟ้อ (CPI) ข่าวเหล่านี้มีผลโดยตรงต่อความผันผวนของตลาด โดยเฉพาะข่าวระดับ “High Impact” ที่อาจทำให้ราคาพุ่งหรือร่วงได้ภายในไม่กี่วินาที แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือและได้รับความนิยมสูงสุดคือ Forex Factory ซึ่งมีระบบจัดอันดับความสำคัญของข่าวและแสดงผลลั่วที่คาดการณ์ไว้ ทำให้เทรดเดอร์สามารถเตรียมตัวล่วงหน้าได้ นอกจากนี้ การติดตามแหล่งข่าวเช่น Bloomberg ยังช่วยให้คุณเข้าใจภาพรวมของตลาดและแนวโน้มระยะยาวได้ดีขึ้น
ทำไม Moneta Markets จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับเทรดเดอร์ไทย
เมื่อพูดถึงโบรกเกอร์ที่เหมาะกับการเทรดในช่วงเวลาต่าง ๆ โดยเฉพาะช่วงที่ตลาดทับซ้อนกัน ผู้เทรดหลายคนหันมาให้ความสนใจ Moneta Markets ซึ่งเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงในด้านความโปร่งใส ค่าสเปรดต่ำ และการสนับสนุนเครื่องมือการเทรดขั้นสูง จุดเด่นของ Moneta Markets คือการให้บริการในหลายตลาด ทั้ง Forex, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์ และแม้แต่คริปโตเคอร์เรนซี พร้อมระบบการส่งคำสั่งที่รวดเร็วและเสถียร ทำให้เหมาะกับการเทรดในช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูง เช่น ช่วงลอนดอน-นิวยอร์กทับซ้อนกัน ยิ่งไปกว่านั้น แพลตฟอร์มของ Moneta Markets รองรับการใช้งานร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ต่าง ๆ อย่าง TradingView และมีบริการลูกค้าแบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้เทรดสามารถแก้ปัญหาหรือสอบถามข้อมูลได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมือเก๋า
สรุป: วางแผนการเทรดให้สอดคล้องกับจังหวะของตลาด
การเข้าใจช่วงเวลาของตลาด Forex และลักษณะเฉพาะของแต่ละ Session คือหนึ่งในกุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จในระยะยาว รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ตลาดมีสภาพคล่องสูง ความผันผวนเพิ่มขึ้น หรือคู่เงินใดเริ่มมีการเคลื่อนไหว จะช่วยให้คุณตัดสินใจเข้า-ออกออเดอร์ได้อย่างแม่นยำและมีเหตุผลมากขึ้น
สำหรับเทรดเดอร์ในประเทศไทย ช่วงเวลาที่น่าสนใจที่สุดคือช่วงค่ำ ตั้งแต่ 19:00 น. เป็นต้นไป ซึ่งตรงกับช่วงที่ตลาดลอนดอนและนิวยอร์กทับซ้อนกัน อย่างไรก็ตาม ไม่มีช่วงเวลาใดที่เหมาะกับทุกคน ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ ความถนัด และกลยุทธ์ของแต่ละคน นักเทรดควรเลือกช่วงเวลาที่ตนเองสามารถโฟกัสได้อย่างเต็มที่ ควบคู่กับการใช้เครื่องมือช่วยวิเคราะห์ เช่น ปฏิทินเศรษฐกิจและนาฬิกาตลาด เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ ยิ่งไปกว่านั้น การเลือกใช้โบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือและสนับสนุนการเทรดอย่างมืออาชีพ เช่น Moneta Markets ก็จะช่วยให้คุณก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง การวางแผนที่ดี คือรากฐานของการเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จในระยะยาว
ตลาด Forex เปิด-ปิดกี่โมงตามเวลาในประเทศไทย?
ตลาด Forex เปิดทำการต่อเนื่องตั้งแต่วันจันทร์เวลา 04:00/05:00 น. (ตามฤดู) จนถึงวันเสาร์เวลา 04:00/05:00 น. ตามเวลาประเทศไทย (GMT+7) โดยแบ่งเป็น 4 ช่วงตลาดหลักคือ ซิดนีย์, โตเกียว, ลอนดอน, และนิวยอร์ก
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเทรด Forex คือตอนไหน?
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงที่ตลาดลอนดอนและนิวยอร์กเปิดทับซ้อนกัน (London-New York Overlap) ซึ่งตรงกับเวลาประมาณ 19:00 – 23:00 น. หรือ 20:00 – 00:00 น. ตามเวลาไทย (ขึ้นอยู่กับ DST) เพราะเป็นช่วงที่มีสภาพคล่องและความผันผวนสูงสุด
เทรด Forex ในวันหยุดสุดสัปดาห์ (เสาร์-อาทิตย์) ได้หรือไม่?
ไม่ได้ โดยทั่วไปตลาด Forex จะปิดทำการในวันเสาร์และอาทิตย์ เนื่องจากศูนย์กลางการเงินหลักทั่วโลกหยุดทำการ อย่างไรก็ตาม บางโบรกเกอร์อาจมีการให้บริการเทรดสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) ในช่วงสุดสัปดาห์
ทำไมช่วงเวลาที่ตลาดลอนดอนและนิวยอร์กทับซ้อนกันถึงสำคัญที่สุด?
เพราะเป็นช่วงที่ตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดสองแห่งของโลก (คิดเป็นกว่า 70% ของปริมาณการซื้อขายทั้งหมด) เปิดทำการพร้อมกัน ทำให้มีผู้เข้าร่วมตลาดจำนวนมหาศาล ส่งผลให้มีสภาพคล่องสูงสุด สเปรดแคบที่สุด และมีความผันผวนของราคาสูงที่สุด เหมาะสำหรับการเทรดทำกำไร
การปรับเวลาออมแสง (Daylight Saving Time – DST) มีผลต่อเวลาเทรด Forex หรือไม่?
มีผลอย่างมาก DST ทำให้เวลาเปิด-ปิดของตลาดยุโรป (ลอนดอน) และอเมริกา (นิวยอร์ก) เลื่อนเร็วขึ้น 1 ชั่วโมงในช่วงฤดูร้อน (ประมาณเดือนมีนาคม/เมษายน ถึง ตุลาคม/พฤศจิกายน) เทรดเดอร์จึงต้องตรวจสอบตารางเวลาให้ถูกต้องเสมอ
มีแอพพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์แนะนำสำหรับดูเวลาตลาด Forex แบบสดหรือไม่?
มีหลายแหล่งที่ยอดเยี่ยม เช่น:
- Investing.com: มีเครื่องมือ Market Hours ที่ชัดเจนและใช้งานง่าย
- Forex Factory: นอกจากปฏิทินเศรษฐกิจแล้ว ยังมีหน้า Market ที่แสดงเวลาตลาดได้ดี
- TradingView: แพลตฟอร์มกราฟยอดนิยมที่สามารถแสดงช่วงเวลาของแต่ละ Session บนกราฟได้โดยตรง
สำหรับมือใหม่ ควรหลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงเวลาใดเป็นพิเศษ?
มือใหม่ควรระมัดระวังการเทรดในช่วงที่มีการประกาศข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่มีผลกระทบรุนแรง (ข่าวสีแดงในปฏิทิน Forex Factory) เช่น Non-farm Payrolls หรือการประกาศอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากตลาดจะผันผวนสูงมากและคาดเดาทิศทางได้ยาก
ข่าวเศรษฐกิจจาก Forex Factory มีผลต่อความผันผวนในช่วงเวลาเทรดอย่างไร?
ข่าวเศรษฐกิจ โดยเฉพาะข่าวที่มีความสำคัญระดับสูง (High Impact) จะทำให้เกิดความผันผวนอย่างรุนแรงในระยะสั้น หากตัวเลขที่ประกาศออกมาผิดจากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้มาก อาจทำให้ราคาวิ่งไปทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่นาที ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก