พีระมิดการลงทุน: 2025 กลยุทธ์บริหารพอร์ตสู่ความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน

ไขรหัสพีระมิดการลงทุน: กลยุทธ์บริหารพอร์ตสู่ความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน

ในโลกที่การเงินผันผวนและเต็มไปด้วยโอกาสและความท้าทาย การวางแผนและจัดสรรเงินลงทุนอย่างมีหลักการจึงเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความมั่นคงและความมั่งคั่งในระยะยาว คุณเคยสงสัยไหมว่านักลงทุนที่ประสบความสำเร็จเขามีแนวคิดในการจัดการเงินลงทุนอย่างไรให้เติบโตอย่างยั่งยืน? เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจแนวคิดที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังที่เรียกว่า “พีระมิดการลงทุน” (Investment Pyramid) ซึ่งเป็นกรอบคิดที่ช่วยให้นักลงทุนจัดพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับความเสี่ยงและเป้าหมายการลงทุนส่วนบุคคล เพื่อให้เงินทุนของคุณเติบโตอย่างมีทิศทาง ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น หรือนักลงทุนที่มีประสบการณ์ที่ต้องการทบทวนหลักการ การทำความเข้าใจพีระมิดนี้จะมอบรากฐานอันแข็งแกร่งให้คุณเสมอ

พีระมิดการลงทุนที่แสดงฐานที่มั่นคงที่กว้างใหญ่

ลองจินตนาการถึงพีระมิดอันแข็งแกร่งที่มีฐานกว้างใหญ่และค่อย ๆ เรียวเล็กลงสู่ยอด พีระมิดการลงทุน ก็มีหลักการคล้ายกัน นั่นคือ การจัดสรรเงินลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ โดยเรียงลำดับตามระดับความเสี่ยง เริ่มจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุดที่ฐาน และเพิ่มความเสี่ยงขึ้นไปเรื่อย ๆ จนถึงยอดพีระมิด ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงสุด

  • การสร้างความเข้าใจที่ดีกับพีระมิดการลงทุนจะช่วยให้นักลงทุนสามารถจัดการเงินลงทุนได้อย่างมีระบบ
  • การจัดสรรสินทรัพย์ตามระดับความเสี่ยงช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว
  • นักลงทุนควรเลือกสินทรัพย์ตามความเสี่ยงที่สามารถรับได้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในอนาคต

การจัดสรรเงินลงทุนในพีระมิดการลงทุน

หัวใจสำคัญของแนวคิดนี้คือการให้ความสำคัญกับ “ความปลอดภัยของเงินลงทุน” (Capital Protection) ในส่วนฐาน และค่อย ๆ ขยับไปสู่ “โอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น” (Capital Appreciation) ในส่วนยอด เพื่อให้พอร์ตของคุณมีความสมดุลและสามารถรับมือกับความผันผวนของตลาดได้ดี

ฐานพีระมิดการลงทุน: เสถียรภาพและเงินต้นที่ปลอดภัย

ส่วนที่กว้างที่สุดของพีระมิด หรือที่เรียกว่า “ฐานพีระมิด” คือส่วนที่คุณควรจัดสรรเงินลงทุนส่วนใหญ่ของคุณเข้าไป เพราะนี่คือส่วนที่เน้นความปลอดภัยสูงสุด ให้ผลตอบแทนค่อนข้างแน่นอน และมีความผันผวนต่ำมาก เหมาะสำหรับการปกป้องเงินต้นและเป็นเสมือนเงินทุนสำรองในการลงทุนของคุณ

ประเภทสินทรัพย์ ลักษณะ
เงินฝากธนาคาร ให้ความปลอดภัยสูง แม้จะให้ผลตอบแทนต่ำ
ตั๋วเงินคลังและพันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้มีความเสี่ยงต่ำมาก
กองทุนรวมตลาดเงิน การลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีคุณภาพสูง
สลากออมสิน การออมที่ให้โอกาสลุ้นรางวัล

การมีฐานที่แข็งแกร่งจะช่วยให้พอร์ตการลงทุนของคุณไม่โยกคลอนมากนัก แม้ในภาวะที่ตลาดมีความผันผวนสูง คุณเห็นด้วยไหมว่าการมีเงินทุนที่ปลอดภัยรองรับอยู่เสมอเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง?

ยอดพีระมิดการลงทุน: โอกาสในการสร้างผลตอบแทนสูงจากความเสี่ยง

ถัดขึ้นไปจากฐานที่แข็งแกร่ง คุณจะเริ่มเห็นส่วนที่แคบลงของพีระมิด นั่นคือส่วนที่คุณจะจัดสรรเงินลงทุนส่วนน้อยเข้าไปในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น แต่ก็แลกมาด้วยโอกาสในการทำกำไรที่สูงกว่ามาก นี่คือส่วนที่เน้นการสร้าง Capital Appreciation หรือการเพิ่มมูลค่าเงินลงทุนให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด

การเติบโตของความมั่งคั่งผ่านการกระจายสินทรัพย์ที่สมดุล

สินทรัพย์ในกลุ่มยอดพีระมิดนี้มักจะมีความผันผวนสูงตามสภาวะเศรษฐกิจและตลาด แต่ก็มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่น่าประทับใจในระยะยาว ซึ่งต้องอาศัยความเข้าใจและยอมรับความเสี่ยงที่มากขึ้น ตัวอย่างเช่น:

  • หุ้น (Equities): การลงทุนในหุ้นคือการเป็นเจ้าของกิจการ ซึ่งมีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูงทั้งจากส่วนต่างราคา (Capital Gain) และเงินปันผล (Dividend) แต่ก็มีความผันผวนสูง
  • อสังหาริมทรัพย์ (Real Estate): การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่า ซื้อขาย หรือพัฒนา สามารถสร้างรายได้และมูลค่าเพิ่มได้ดีในระยะยาว แต่ต้องใช้เงินลงทุนสูงและสภาพคล่องต่ำ
  • ทองคำ (Gold): มักถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยยามเกิดวิกฤต หรือเป็นเครื่องมือป้องกันความผันผวนของเงินเฟ้อ การลงทุนในทองคำจึงเป็นการกระจายการลงทุนอีกรูปแบบหนึ่ง
  • อนุพันธ์ (Derivatives): เช่น ฟิวเจอร์ส หรือออปชั่น เป็นเครื่องมือที่มีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูงมาก เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีความเข้าใจตลาดอย่างลึกซึ้งและพร้อมรับความเสี่ยงสูงลิ่ว
  • กองทุนรวมหุ้น (Equity Funds) และกองทุนรวมผสม (Mixed Funds): เป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการลงทุนในหุ้นแต่ไม่มีเวลาศึกษารายตัว โดยมีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพคอยบริหารจัดการให้
ประเภทสินทรัพย์ ลักษณะ
หุ้น มีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูงจากส่วนต่างราคาและเงินปันผล
อสังหาริมทรัพย์ สร้างรายได้และมูลค่าเพิ่มได้ในระยะยาว
ทองคำ เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในยามวิกฤต
อนุพันธ์ เครื่องมือความเสี่ยงสูง เหมาะสำหรับนักลงทุนประสบการณ์สูง
กองทุนรวมหุ้น เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ไม่มีเวลาศึกษาเอง

การจัดสรรเงินลงทุนในส่วนนี้ต้องคำนึงถึงระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ และระยะเวลาที่คุณพร้อมจะถือครองสินทรัพย์เหล่านั้น หากคุณมีเป้าหมายระยะยาวและสามารถรับมือกับความผันผวนได้ การลงทุนในยอดพีระมิดจะช่วยเพิ่มศักยภาพการเติบโตให้พอร์ตการลงทุนของคุณได้อย่างก้าวกระโดด

ประโยชน์และคุณค่าของพีระมิดการลงทุน: ทำไมเราจึงควรใช้กลยุทธ์นี้?

การจัดพอร์ตแบบพีระมิดการลงทุนไม่ได้เป็นเพียงแค่แนวคิดที่ดูสวยงามเท่านั้น แต่ยังมอบประโยชน์เชิงปฏิบัติที่สำคัญแก่นักลงทุนทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังเริ่มต้นเส้นทางนี้ การใช้แนวคิดนี้จะช่วยให้พอร์ตการลงทุนของคุณมีความสมดุลและยืดหยุ่น

  • สร้างความปลอดภัยของเงินลงทุน: ด้วยการให้ความสำคัญกับสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำที่ฐาน คุณมั่นใจได้ว่าเงินลงทุนส่วนใหญ่ของคุณจะได้รับการปกป้องจากความผันผวนรุนแรงของตลาด
  • ลดความผันผวนของพอร์ต: การกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์หลากหลายประเภทที่มีความสัมพันธ์กันน้อย ช่วยลดความผันผวนโดยรวมของพอร์ตการลงทุน ทำให้คุณสามารถนอนหลับได้อย่างสบายใจมากขึ้น
  • สร้างผลตอบแทนในทุกภาวะตลาด: เมื่อตลาดเป็นขาขึ้น สินทรัพย์ความเสี่ยงสูงที่ยอดพีระมิดจะช่วยสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจ แต่เมื่อตลาดเป็นขาลง สินทรัพย์ที่ฐานพีระมิดจะช่วยประคองพอร์ตไม่ให้เสียหายมากเกินไป ทำให้คุณมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ในทุกสภาวะ
  • เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่: แนวคิดที่เรียบง่ายและเป็นระบบ ทำให้นักลงทุนมือใหม่สามารถเริ่มต้นจัดพอร์ตลงทุนได้โดยไม่ต้องมีความรู้ซับซ้อนมากนัก เพียงแค่ทำความเข้าใจคุณสมบัติของสินทรัพย์แต่ละประเภทและจัดสรรให้เหมาะสม
  • มีความยืดหยุ่นในการปรับแผน: คุณสามารถปรับสัดส่วนของฐานและยอดพีระมิดได้ตามสถานการณ์ชีวิตและเป้าหมายการลงทุนที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น เมื่อใกล้วัยเกษียณ คุณอาจปรับลดสัดส่วนสินทรัพย์ความเสี่ยงสูงลง และเพิ่มสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำให้มากขึ้นเพื่อความปลอดภัย

พีระมิดทางการเงิน: กรอบใหญ่สู่ชีวิตที่สมดุลและมั่งคั่ง และการจัดการกระแสเงินสด

นอกเหนือจาก “พีระมิดการลงทุน” ที่เน้นการบริหารจัดการเงินออมเพื่อการเติบโตแล้ว ยังมีแนวคิดที่กว้างกว่าที่เรียกว่า “พีระมิดทางการเงิน” (Financial Pyramid) ซึ่งเป็นการวางแผนการเงินส่วนบุคคลอย่างองค์รวม ตั้งแต่ฐานรากที่สำคัญที่สุดไปจนถึงยอดสูงสุดที่เพิ่มประสิทธิภาพทางการเงินในระยะยาว เพื่อให้คุณมีชีวิตทางการเงินที่มั่นคงและไร้กังวล

ส่วนที่สำคัญที่สุดและกว้างที่สุดของพีระมิดทางการเงิน เปรียบเสมือนเสาหลักที่ค้ำจุนทุกอย่างไว้ คือการบริหารจัดการกระแสเงินสด (Cash Flow) และหนี้สิน (Debt) อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้คุณมีเงินใช้จ่ายอย่างเพียงพอ และสามารถสร้างเงินออมเพื่ออนาคตได้ นักวางแผนการเงินหลายคนแนะนำแนวคิด 50/30/20 Rule ของ Elizabeth Warren เพื่อการจัดการรายรับ-รายจ่ายที่สมดุล

กลยุทธ์การจัดการ คำอธิบาย
ควบคุมรายรับ-รายจ่าย บันทึกและติดตามกระแสเงินสดให้รู้ว่าเงินไปที่ไหน
สร้างเงินสำรองฉุกเฉิน มีเงินสดสำรองไว้สำหรับยามจำเป็น
บริหารจัดการหนี้สิน ชำระหนี้สินที่มีดอกเบี้ยสูงให้หมดไปก่อน

เกราะป้องกันความเสี่ยงในพีระมิดการเงิน: ประกันภัยที่จำเป็น

เมื่อฐานรากมั่นคงแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการสร้างเกราะป้องกันตัวเองและครอบครัวจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน การป้องกันความเสี่ยง (Protection) ด้วยเครื่องมือประกันภัยต่าง ๆ จะช่วยโอนย้ายภาระทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทำให้แผนการเงินโดยรวมของคุณมีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น

  • ประกันวินาศภัย: เช่น ประกันรถยนต์ ประกันบ้าน ช่วยคุ้มครองทรัพย์สินของคุณจากความเสียหายที่ไม่คาดฝัน
  • ประกันชีวิต: ทั้งประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ หรือประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ จะช่วยคุ้มครองคนข้างหลังในกรณีที่คุณจากไปก่อนวัยอันควร หรือช่วยสร้างเงินออมเพื่อใช้ในอนาคต
  • ประกันสุขภาพและประกันโรคร้ายแรง: คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่อาจสูงลิ่วและบั่นทอนเงินออมของคุณได้ในพริบตา

การมีประกันภัยที่เหมาะสมเปรียบเสมือนร่มกันฝน ที่คุณต้องเตรียมไว้ก่อนฝนจะตก ไม่ใช่หาเมื่อฝนตกแล้ว จริงไหม?

การต่อยอดความมั่งคั่งในพีระมิดการเงิน: การออมและการลงทุน

เมื่อคุณจัดการกระแสเงินสดและมีเกราะป้องกันความเสี่ยงแล้ว ขั้นตอนนี้คือการทำให้เงินของคุณงอกเงย การออมและการลงทุนในสินทรัพย์ที่เหมาะสมกับเป้าหมายการลงทุนและระยะเวลาที่แตกต่างกัน จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทางการเงินในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายระยะสั้น (เช่น เงินดาวน์บ้าน รถยนต์), ระยะปานกลาง (เช่น ค่าเล่าเรียนบุตร), หรือระยะยาว (เช่น เงินเกษียณ)

ประเภทการลงทุน เป้าหมายการลงทุน
เงินฝาก เป้าหมายระยะสั้น เช่น เงินดาวน์บ้าน
ตราสารหนี้ เป้าหมายระยะปานกลาง เช่น ค่าเล่าเรียนบุตร
กองทุนรวม เป้าหมายระยะยาว เช่น เงินเกษียณ
หุ้น การเติบโตในระยะยาว

ในส่วนนี้ คุณสามารถนำแนวคิด “พีระมิดการลงทุน” มาประยุกต์ใช้เพื่อจัดสรรเงินลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเงินฝาก ตราสารหนี้ กองทุนรวมประเภทต่าง ๆ หรือหุ้น โดยพิจารณาจากระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ และผลตอบแทนที่คุณคาดหวัง

วางแผนภาษีในพีระมิดการเงิน: ใช้สิทธิประโยชน์ให้เป็น

เมื่อคุณเริ่มมีรายได้และผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงขึ้น การวางแผนภาษีจะเข้ามามีบทบาทสำคัญ การใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอย่างถูกวิธีจะช่วยลดภาระภาษีเงินได้ของคุณ ทำให้คุณมีเงินเหลือสำหรับออมและลงทุนได้มากขึ้น การลงทุนใน RMF หรือ SSF เป็นตัวอย่างที่ดีของการลงทุนที่มาพร้อมสิทธิลดหย่อนภาษี

การเข้าใจกฎหมายภาษีและวางแผนล่วงหน้าเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากมาตรการทางภาษีที่รัฐบาลมอบให้

ส่งต่อมรดกในพีระมิดการเงิน: ความมั่นคงจากรุ่นสู่รุ่น

ส่วนที่ยอดที่สุดของพีระมิดทางการเงินคือการวางแผนมรดก (Wealth Transfer) ซึ่งเป็นการบริหารจัดการทรัพย์สินของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าจะถูกส่งต่อไปยังผู้รับตามเจตนารมณ์ของคุณอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากที่สุด รวมถึงการบริหารจัดการภาษีมรดกตามพระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก พ.ศ. 2558

การทำพินัยกรรม การมอบหมายผู้จัดการมรดก หรือการใช้เครื่องมืออื่น ๆ เช่น การตั้งกองทุนส่วนบุคคล จะช่วยให้ทรัพย์สินของคุณไม่ตกค้างและส่งต่อถึงมือคนที่คุณรักได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว

สร้างความสำเร็จทางการเงินด้วยหลักการกระจายสินทรัพย์อย่างมีวินัย

ไม่ว่าคุณจะใช้ “พีระมิดการลงทุน” หรือ “พีระมิดทางการเงิน” หัวใจสำคัญสู่ความมั่งคั่งที่ยั่งยืนคือการมีวินัยในการจัดสรรเงินลงทุนและการบริหารจัดการพอร์ตอย่างสม่ำเสมอ ในโลกของการลงทุนที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การปรับตัวและประเมินสถานการณ์อย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อลดความผันผวนและสร้างผลตอบแทนตามที่คาดหวังในระยะยาว

นี่คือหลักการสำคัญที่คุณควรจำไว้:

  • ศึกษาข้อมูลการลงทุน: ทำความเข้าใจสินทรัพย์แต่ละประเภทอย่างถ่องแท้ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ตราสารหนี้ ทองคำ หรืออสังหาริมทรัพย์ การมีความรู้คืออำนาจในการตัดสินใจลงทุนที่ดี
  • กำหนดสัดส่วนที่เหมาะกับเป้าหมายและความเสี่ยง: ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวสำหรับการจัดสรรสินทรัพย์ คุณต้องวิเคราะห์ตนเองว่ายอมรับความเสี่ยงได้แค่ไหน มีเป้าหมายการลงทุนอะไร และระยะเวลาที่ต้องการลงทุนนานเท่าใด
  • กระจายความเสี่ยงอย่างสมดุล: อย่ากระจุกเงินลงทุนไว้ในสินทรัพย์เพียงประเภทเดียว หรือสินทรัพย์ของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง การกระจายการลงทุน (Diversification) คือกุญแจสำคัญในการลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ต
  • มีความยืดหยุ่นในการปรับแผน: ชีวิตมีการเปลี่ยนแปลง เป้าหมายการลงทุนก็เช่นกัน ตรวจสอบและปรับแผนจัดสรรสินทรัพย์ของคุณเป็นประจำทุกปี หรือเมื่อมีเหตุการณ์สำคัญในชีวิตเกิดขึ้น
  • ประเมินสถานการณ์อย่างสม่ำเสมอ: ติดตามข่าวสารเศรษฐกิจและตลาด เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจปรับพอร์ตได้อย่างทันท่วงที

จงจำไว้ว่าการเดินทางสู่ความมั่งคั่งไม่ใช่การวิ่งเข้าเส้นชัยในระยะสั้น แต่เป็นการเดินทางระยะยาวที่ต้องอาศัยความอดทน วินัย และความรู้ ความรู้ทางการเงินที่คุณได้รับจากแนวคิดพีระมิดการลงทุนและพีระมิดทางการเงินนี้จะเป็นแสงสว่างนำทางให้คุณเดินหน้าไปได้อย่างมั่นคง

สรุป: สร้างรากฐานสู่ความสำเร็จทางการเงินที่สมบูรณ์แบบ

“พีระมิดการลงทุน” เป็นเครื่องมืออันทรงคุณค่าที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถจัดสรรสินทรัพย์ได้อย่างมีระบบ เพื่อสร้างพอร์ตที่ปลอดภัยและมีศักยภาพในการเติบโต เมื่อผนวกกับการวางแผนการเงินแบบองค์รวมด้วย “พีระมิดทางการเงิน” คุณจะสามารถสร้างรากฐานทางการเงินที่แข็งแกร่ง นำไปสู่ความมั่นคงและความมั่งคั่งในระยะยาวได้อย่างแท้จริง

การเริ่มต้นอาจดูซับซ้อน แต่เมื่อคุณค่อย ๆ ทำความเข้าใจและนำหลักการเหล่านี้ไปปรับใช้กับสถานการณ์ของตนเองอย่างมีวินัย คุณจะพบว่าการบริหารจัดการพอร์ตเพื่อสร้างผลตอบแทนและการวางแผนชีวิตทางการเงินให้สมดุลนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้จริง และจะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างอนาคตทางการเงินที่สดใสให้กับตัวคุณเอง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับพีระมิดการลงทุน

Q:พีระมิดการลงทุนคืออะไร?

A:พีระมิดการลงทุนเป็นกรอบแนวคิดในการจัดสรรเงินลงทุนตามระดับความเสี่ยงเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนและมั่นคง

Q:การจัดสรรเงินลงทุนโดยใช้พีระมิดการลงทุนมีข้อดีอย่างไร?

A:ช่วยให้คุณสร้างพอร์ตการลงทุนที่มีความสมดุล และลดความผันผวนของการลงทุนในระยะยาว

Q:เหมาะสมกับนักลงทุนประเภทไหน?

A:พีระมิดการลงทุนเหมาะกับนักลงทุนทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือผู้มีประสบการณ์ ทำให้สามารถเข้าใจและจัดการเงินลงทุนได้ดียิ่งขึ้น

amctop_com

發佈留言

發佈留言必須填寫的電子郵件地址不會公開。 必填欄位標示為 *